เครื่องเป่าใบไม้ มีกี่ประเภท มีวิธีการเลือกซื้ออย่างไร

เครื่องเป่าใบไม้ เครื่องดูดใบไม้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งในการใช้เป่าใบไม้ได้ทั้งแบบแห้งและแบบเปียก รวมถึงเศษวัสดุต่าง ๆ อีกทั้งยังสามารถปรับเป็นเครื่องดูดใบไม้พร้อมถุงเก็บได้ เมื่อตัดหญ้าหรือต้องการเก็บของ รวมทั้งทำความสะอาดสามารถใช้เครื่องเป่าดูดนี้ทำความสะอาดได้ง่าย หรือถ้าต้องการเก็บเศษใบไม้สามารถทำได้ง่ายในเครื่องเดียว เพราะเครื่องจะดูดเข้าไปเก็บไว้ในถุงเก็บใบไม้พร้อมให้เอาไปทิ้งเมื่อเสร็จงาน

การทำงานเครื่องเป่า-ดูดใบไม้จะทำงานในลักษณะเหมือนกับเครื่องเป่าลมเย็น เพียงแต่ว่าเครื่องเป่าใบไม้ ดูดใบไม้จะมีตัวเครื่องที่ใหญ่กว่า ลมที่เป่าออกมาจะแรงกว่าและสามารถดูดเศษใบไม้ เศษหญ้า เศษขยะที่มีขนาดใหญ่กว่าเครื่องเป่า-ดูดลมเย็นธรรมดาจึงสร้างความสะดวกสบาย เบาแรง ประหยัดเวลาให้แก่ผู้ใช้งานได้

เมื่อถึงช่วงฤดูใบไม้ร่วงทำให้หลายบ้านจะต้องเผชิญกับปัญหากับเศษใบไม้ที่หล่นกองเต็มพื้น ยิ่งบ้านใครที่มีสวนหลังบ้านหรือมีบริเวณรอบ ๆ บ้านที่กว้างขวางต้องเหนื่อยในการทำความสะอาดกันยกใหญ่ ซึ่งปัจจุบันจึงพัฒนาเครื่องเป่าใบไม้และดูดใบไม้เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ในการจัดการกับเศษใบไม้ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเหนื่อยในการเก็บกวาดที่ยุ่งยากอีกต่อไป

ประเภทของเครื่องเป่าใบไม้

1.เครื่องเป่าใบไม้แบบใช้ไฟฟ้า

เครื่องเป่าใบไม้แบบใช้ไฟฟ้านั้นจะใช้กระแสไฟฟ้าในการเป็นต้นกำลังเพื่อที่จะทำการหมุนตัวมอเตอร์แล้วส่งไปยังใบพัดเพื่อทำการสร้างแรงลมออกจากเครื่องเป่าใบไม้ซึ่งจะมีทั้งแบบที่ใช้สายและแบบไร้สายโดยแบบที่ใช้สายนั้นจะใช้สายเชื่อมต่อกับปลั๊กไฟบ้านของคุณโดยจะต้องมีการลากสายให้ทั่วถึงกับพื้นที่ที่จะต้องใช้งานและหลังจากใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้วคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเก็บสายซึ่งอาจจะเป็นการเพิ่มภาระงานให้กับคุณได้ดังนั้นจึงมีการออกแบบเครื่องเป่าใบไม้แบบใช้ไฟฟ้าไร้สายซึ่งจะใช้แบตเตอรี่ในการเป็นแหล่งพลังงานให้กับตัวมอเตอร์ภายในเครื่องเป่าใบไม้ซึ่งจะทำให้คุณ สามารถที่จะใช้งานได้สะดวกสบายและคล่องตัวกว่ารวมถึงนำเอาไปใช้งานตามพื้นที่ที่กระแสไฟฟ้าเข้าไม่ถึงได้อีกด้วยแต่การใช้งานเครื่องเป่าใบไม้แบบไร้สายแล้วก็มีข้อจำกัดตรงที่ความจุของแบตเตอรี่ซึ่งจะทำให้ระยะเวลาในการทำงานของเครื่องเป่าใบไม้นั้นมีจำกัดเมื่อแบตเตอรี่หมด

2.เครื่องเป่าใบไม้แบบใช้เครื่องยนต์

เครื่องเป่าใบไม้แบบใช้เครื่องยนต์นั้นจะใช้เครื่องยนต์แบบสันดาปภายในเป็นต้นกำลังในการเป่าลมโดยเครื่องเป่าใบไม้ประเภทนี้นั้นจะเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีเนื้อที่มากและต้องการกำลังมากในการทำงานรวมถึงต้องการความคล่องตัวในการทำงานมากกว่าแต่ก็ต้องแลกมากับเสียงของเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างจะดังรวมถึงฝุ่นและควันที่เกิดขึ้นจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์และตัวเครื่องยนต์นั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการดูแลรักษาเครื่องยนต์อยู่เป็นประจำไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและการดูแลรักษาเครื่องยนต์อื่น ๆ จุกจิก กว่าการใช้ระบบไฟฟ้านั่นเอง

ดูวิธีในการเลือกซื้อเครื่องเป่าใบไม้มาใช้งานนั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมในการใช้งานของคุณอย่างเช่นการใช้งานในพื้นที่ที่มีความกว้างใหญ่มาก ๆ อย่างตามอาคารหรือที่ทำงานออฟฟิศหรือตึกขนาดใหญ่นั้นควรที่จะใช้เครื่องเป่าใบไม้ที่มีขนาดใหญ่และมีประสิทธิภาพสูงเพียงพอที่จะช่วยให้ทำงานเสร็จได้อย่างรวดเร็วแต่ถ้าเป็นการใช้ เขาใบไม้ภายในบ้านทางเดินพื้นที่ไม่มากนั้นเครื่องเป่าใบไม้ที่ใช้ไฟฟ้าก็ถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานแล้ว

เลือกซื้อเครื่องเป่าใบไม้อย่างไร

1. กำลังขอเครื่องเป่าใบไม้

กำลังของเครื่องเป่าใบไม้นะจะหมายถึงต้นกำลังที่ใช้ในการสร้างลมทำให้เกิดกระแสลมเพื่อปัดเป่าใบไม้ซึ่งไม่ว่าจะเป็นตัวที่ใช้ไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์ก็แล้วแต่นะคุณจะต้องเลือกเครื่องเป่าใบไม้ที่มีกำลังลมที่เพียงพอสำหรับการใช้งานของคุณโดยพิจารณาได้จากกำลังของตัวมอเตอร์หรือเครื่องยนต์โดยในส่วนของตัวมอเตอร์ไฟฟ้านั้นจะต้องมีกำลังตั้งแต่ 200 บาทขึ้นไปและตัวเครื่องยนต์นั้นจะต้องมีกำลังตั้งแต่ 0.5 แรงม้าขึ้นไปถึงจะเพียงพอต่อการใช้งาน

2.น้ำหนักของเครื่องเป่าใบไม้

เนื่องจากว่าผู้ใช้งานจำเป็นจะต้องแบกเครื่องเป่าใบไม้ ที่ใช้งานดังนั้นในการเลือกซื้อเครื่องเป่าใบไม้ควรจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อเครื่องเป่าใบไม้ที่มีขนาดกะทัดรัดน้ำหนักที่เบาซึ่งจะช่วยผ่อนแรงในการใช้งานของผู้ใช้งานให้สามารถที่จะใช้งานได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นการเลือกซื้อเครื่องเป่าใบไม้ที่มีขนาดใหญ่เทอะทะจนเกินไปนั้นอาจจะทำให้ผู้ใช้งานใช้งานได้ยากกว่านั้นเอง

3.ประสิทธิภาพ ในการทำงาน

ดูเครื่องเป่าใบไม้นั้นไม่ว่าจะเป็นทั้งแบบที่ใช้ไฟฟ้าหรือแบบที่ใช้น้ำมันนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสามารถที่จะสร้างแรงลมเพียงพอที่จะเป่าใบไม้เศษฝุ่นควันต่าง ๆ ให้ไปในทิศทางที่ผู้ใช้งานต้องการได้ซึ่งตัวเครื่องนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพในการเป่าลมที่ดีเพียงพอสำหรับการใช้งานซึ่งจะช่วยให้การใช้งานนั้นมีประสิทธิภาพสูงและช่วยในการพ่นแรงของผู้ใช้งานได้จริง

4.คุณภาพของตัวสินค้าและวัสดุอุปกรณ์

ในการเลือกซื้อเครื่องเป่าใบไม้นะคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อเครื่องเป่าใบไม้ที่ใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพสูงอย่างเช่นตัวเครื่องเป่านั้นจะต้องทำจากพลาสติกหรือโลหะที่มีความแข็งแรงสูงซึ่งจะทำให้ตัวเครื่องนั้นสามารถที่จะรองรับแรงกระแทกขณะที่ใช้งานได้ดีในระดับหนึ่งรวมถึงตัวเครื่องยนต์และตัวมอเตอร์และระบบเฟืองเกียร์ต่าง ๆ นั้นจะต้องมีความแข็งแรงทนทานซึ่งจะทำให้ตัวเครื่องนั้นมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและมีความคุ้มค่า

5.การรับประกันสินค้า และบริการหลังการขาย

ในการเลือกซื้อเครื่องเป่าใบไม้นั้นคุณจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกซื้อเครื่องเป่าใบไม้ที่มีการรับประกันจากผู้ขายหรือผู้ผลิตอย่างน้อย 3 ถึง 6 เดือนเพื่อช่วยให้คุณนั้นมั่นใจในตัวสินค้าว่ามีประสิทธิภาพและคุณภาพดีเพียงพอที่จะซื้อแล้วนำมาใช้งานในกรณีที่ตัวเครื่องเกิดปัญหาขณะที่ตัวเครื่องยังอยู่ในการรับประกันนั้นทางผู้ขายหรือผู้ผลิตนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำการรับผิดชอบในกรณีที่ปัญหาดังกล่าวนั้นเกิดจากการประกอบที่ไม่ได้คุณภาพหรืออุปกรณ์เสียหายเนื่องจากมีปัญหาในการผลิตทางผู้ขายหรือผู้ผลิตนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ชิ้นใหม่ให้